เลือกตั้ง ส.ส.พิษณุโลก เขต 5  เสน่ห์บนภูสูง  “เย็นยะเยือกยิ่ง”

 

สายลมพัดพริ้วจากเทือกเขาภูหินร่องกล้า โชยมากระทบยอดเขาน้ำจวง พื้นที่นาขั้นบันได”แลนด์มาร์ค” อันลือลั่น

สนามเลือกตั้ง ส.ส.พิษณุโลก เขต 5 ประกอบด้วย อำเภอนครไทย อำเภอชาติตระการ และอำเภอวัดโบสถ์ ดั่งแดนสนธยาซ่อนความงดงามที่ธรรมชาติบรรจงสร้างไว้อย่างน่าอภิรมย์ กลายเป็นเสน่ห์เย้ายวนนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศหลั่งไหล ซึ่งล้วนเคยเป็นสมรภูมิการต่อสู้ทางความคิดของคนไทยในอดีต

ยกเว้นอำเภอวัดโบสถ์ “นั่งแคร่ แช่น้ำ” มีเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พสกนิกรสำนึกในพระบาทกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ พระราชทานเพื่อราษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน

สนามเลือกตั้ง ส.ส.เขต 5 ทุกครั้ง การต่อสู้และความมานะอดทนเท่านั้นที่จะนำพาไปสู่ชัยชนะ ด้วยสภาพพื้นที่ค่อนข้างจะแตกต่างไปจากอำเภออื่นๆ ที่จะเข้าถึงประชาชน เนื่องจากมีเทือกเขาที่สลับซับซ้อนเส้นทางคดเคี้ยว ในอดีตเคยเป็นฐานที่มั่น ส.ส.ของคนในตระกูล”ไกรฤกษ์” ทั้ง ร.ท.จงกล ไกรฤกษ์-โกศลไกรฤกษ์-จุติ ไกรฤกษ์ แม้กระทั่ง ส.ว.พิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ พี่สาวนายจุติ ไกรฤกษ์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

อำเภอนครไทย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในยามหนาวเหน็บ “ภูหินร่องกล้า” เชื่อมโยงกับ“ภูลมโล”ดินแดน“พญาเสือโคร่ง” ที่กล่าวขานว่าเป็น”ซากุระ” เมืองไทยใหญ่ที่สุด และร่องเขานครชุม ประการสำคัญขนบธรรมเนียมประเพณี “ปักธงชัย” จากเกล็ดประวัติศาสตร์เป็นชัยชนะจากการสู้รบของพ่อขุนบางกลางท่าว หรือพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ จึงนำผ้าคาดเอวของท่านผูกปลายไม้ปักไว้ อีกทั้งมีพระบรมราชานุสาวรีย์ เป็นศักดิ์และศรีของชาวอำเภอนครไทยในปัจจุบัน

อำเภอชาติตระการ สถานที่ท่องเที่ยวบ้านน้ำจวง ตำบลบ่อภาค มีนาขั้นบันได ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัส และพักผ่อนกับโฮมสเตย์ และทิวทัศน์อันงามสง่า นอกจากนั้นยังมีจุดชมวิวทะเลหมอก เนื่องจากเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการดำเนินงานของโครงการพัฒนาความมั่นคงพื้นที่ภูขัด ภูเมี่ยง ภูสอยดาว จังหวัดพิษณุโลก อีกทั้งมีน้ำตกชาติตระการ 7 ชั้น มีชื่อตามธิดาท้าวสามล ในอมตะนิยาย

ทั้งอำเภอนครไทย และอำเภอชาติตระการ จึงมีชาติพันธุ์ชนเผ่าม้ง ที่เป็นพลเมืองไทยอย่างสมบูรณ์หลายพันคนที่ประกอบอาชีพตามวิถีของคนบนพื้นที่สูง

การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 นายมานัส อ่อนอ้าย พรรคพลังประชารัฐ 28,971 คะแนน นายคณิศร มาดี พรรคประชาธิปัตย์ 25,021 คะแนน นายนคร มาฉิม พรรคเพื่อไทย 16,218 คะแนนนายอมรเทพ พัวทอง พรรคอนาคตใหม่ 10,643 คะแนน

ครั้งนี้แชมป์เก่า คือ นายมานัส อ่อนอ้าย อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ภายหลังจากล้มไข้ได้ป่วยไม่สามารถ ออกพื้นที่ได้มาอย่างยาวนาน จึงส่งบุตรชายนายชนะชน อ่อนอ้าย ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองนอก ลงสมัครสังกัดพรรคไทยสร้างไทย เบอร์ 2

สำหรับพรรคก้าวไกล เปลี่ยนตัวผู้สมัครจากนายอมรเทพ พัวทอง มาเป็นนายศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ เบอร์ 6 บุตรชายนายประสงค์ สระคู “ส.จ.แก้ว” อดีต ส.จ.นครไทย หลายปีก่อน ส่วนพรรคเพื่อไทย ส่งนายธนวิน โรจน์สุนทรกิตติ เบอร์ 7 หลานชายนางวรรณา ไกรสิทธิพงศ์ อดีต ส.จ.นครไทย หลายสมัย และภรรยานายไกรสิทธิ์ ไกรสิทธิพงศ์ อดีตส.ส.พิษณุโลก ผู้ล่วงลับ

สำหรับสนามเลือกตั้งเขต 5 นี้ ที่น่าติดตามและจับตามอง อาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้สมัครที่มีความพร้อมและฐานเสียง อีกทั้ง 3 คน ยังติดโพลเลือกตั้งทุกสำนักอีกด้วย

พรรคพลังประชารัฐ นายเอกพงษ์ กุลเจริญ เบอร์ 1 อดีตนายก อบต.เนินเพิ่ม อำเภอนครไทย ที่ลาออกมาลงสมัครชิงชัย สังกัดค่ายนายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายก อบจ. พิษณุโลก ที่มีสายสัมพันธ์ อันดีกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ดูแล ทั้งนี้ นายเอกพงษ์ จะสามารถ ฝ่า”ด่านมะขามเตี้ย” ระดับ พ.ต.อ.ธรธวัช แจ่มอุดมโชต หรือ “โกวัช” นายตำรวจคนดังที่พึ่งเกษียณอายุราชการจากตำแหน่ง ผกก.สภ. นครไทย และอดีต ผกก.สภ.วัดโบสถ์

ประการสำคัญมีนายจุติ ไกรฤกษ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เบอร์ 22 หรือ “พรรคลุงตู่” ส่งเข้ามาประกวด นอกจากนั้นนายจุติ มีมือไม้ “ส.จ. 3 ใบเถา”เก๋าเกม คือ นางชุตินันท์ เครือสุข ส.จ.อำเภอนครไทย และดำรงตำแหน่งประธานพัฒนาสตรีจังหวัดพิษณุโลก และ 2 ส.จ.อำเภอชาติตระการ คือ นางสิงห์ จันทะคุณ และนางภิฬารัตน์ ศรีหะวงษ์ พร้อมทั้งไพร่พลผู้นำท้องถิ่น และผู้นำท้องที่ ซึ่งมีความผูกพันในพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอ จึงทำให้คู่คี่สูสีเบียดเสียดกันเป็นอย่างมาก

ด้านนายนคร มาฉิม ครั้งนี้ย้ายสังกัดจากพรรคเพื่อไทย มาลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทย เบอร์ 9 แม้การพ่ายแพ้มาอันดับ 3 จากการเลือกตั้งในปี 2562 ดูเหมือนว่าจะห่างเหินพื้นที่ไป แต่ทว่าการเป็นอดีต ส.ส.4 สมัยของนายนคร ไม่อาจทำให้ใครมองข้ามความปลอดภัย เพราะมีคนรู้หน้า รู้จัก ประกอบกับลีลากลเม็ดเด็ดพรายทางการเมืองชั้นเชิงแพรวพราว และความพร้อมด้านฐานะความเป็นอยู่ ในการเริ่มต้นทางการเมืองถูกฟูมฟัก ภายใต้ร่มเงาของตระกูล “ไกรฤกษ์”มาเช่นเดียวกัน

การเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 14 พฤษภาคม นี้ เหยาะย่างเข้าสู่วสันตฤดู ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย คงละคนกับหยาดเหงื่ออันร้อนรุ่ม