เชียงราย ระดมกำลังสู้ไฟป่าดอยจระเข้ หลังคุณภาพอากาศกลับมาวิกฤติ

102

เชียงราย ระดมกำลังสู้ไฟป่าดอยจระเข้ หลังคุณภาพอากาศกลับมาวิกฤติ

เมื่อวันที่ 22 มี.ค66 ที่ผ่านมา บริเวณเขตรอยต่อระหว่างบ้านห้วยยาโนกับบ้านห้วยก้างปลา ตำบลแม่จัน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ได้เกิดไฟป่าโหมลุกไหม้บนดอยจระเข้ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านประมาณ 30-40 คน ได้พยายามช่วยกันขึ้นไปสกัดไฟ แต่เนื่องจากเป็นช่วงเวลากลางคืนมีความยากลำบากในการดับไฟและเสี่ยงที่จะได้รับอันตราย เลยจำเป็นที่จะต้องถอยลงมาเพื่อตั้งหลักและวางแผนให้รัดกุมก่อน

โดยเมื่อเช้าของวันที่ 23 มี. ค. 66 นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่จัน ได้ ร่วมมือกับหน่วยงาน ในการระดมกำลังคนทั้งจาก สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 , สถานีควบคุมไฟป่าลำน้ำกก, อุทยานแห่ชาติลำน้ำกก, ชุดสายฟ้าของส่วนควบคุมไฟป่า, หน่วยป้องกันและรักษาป่าไม้6(แม่จัน), ทหารพราน ฉก.ทพ.31, ฝ่ายปกครองอำเภอแม่จัน และชาวบ้านจิตอาสากว่า 100 คนเดินเท้าขึ้นไปบนดอยเพื่อทำแนวกันไฟและร่วมกันดับไฟป่าอีกครั้ง เพื่อที่ว่าจะได้ลดความเสียหายให้มากที่สุด

ซึ่งสถานการณ์หมอกควัน ใน อ.เมืองเชียงราย ขณะนี้ ยังถือว่าไม่เกินค่ามาตรฐาน วัดค่าฝุ่น PM2.5 ได้เพียง 57 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่เนื่องจากได้เกิดไฟป่าบนดอยจระเข้ในพื้นที่ อ.แม่จัน เกิดประทุลุกไหม้มาตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. 66 และเป็นพื้นที่ ที่ยากต่อการเข้าไปสกัดเพื่อดับไฟ ด้วยพื้นที่เป็นป่าเขาสูงชัน ส่งผลให้ควบคุมสถานการณ์ได้ค่อนข้างยากลำบาก

ในส่วนของพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ฝั่ง อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีการเกิดไฟป่าบริเวณตะเข็บชายแดนตรงข้ามบ้านผาหมี ต.เวียงพางคำ เมื่อคืนวันที่ 22 มี.ค. 66 เช่นกัน ส่งผลให้เกิดหมอกควันและฝุ่นละออง และคุณภาพอากาศกลับมาอยู่ในระดับสีแดงอีกครั้ง วัดปริมาณฝุ่น PM2.5 ได้ 145 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนฝุ่น ขณะที่ชายแดนไทย-ลาว พื้นที่เขตอำเภอเชียงของ แม้ว่าค่าฝุ่นยังไม่แตะเส้นอันตราย แต่ก็อยู่ใกล้ระดับสีแดงเสี่ยงที่จะเกินมาตรฐานเช่นกัน ซึ่งจากการวัดค่าฝุ่นใน เช้าวันที่ 23 มี.ค. 66 นี้ วัดปริมาณฝุ่น PM2.5 ก็เกินค่ามาตรฐานแล้วเช่นกัน