“เส้นทางเถื่อน” โจรกรรมรถยนต์ -จยย.ข้ามแดน พื้นที่ภาคเหนือ ตะลึง”บ้านโคก”เงียบสงบยิ่ง
การโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ข้ามแดน ที่ผ่านมากำลังเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังนเรศวร สกัดจับได้บ่อยครั้งทางด้านอำเภอแม่สอด อำเภอพบพระ และอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก และกองกำลังผาเมือง ด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ถูกนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง เมื่อถูกทางการปราบปราบจับกุมอย่างหนัก ระยะหลังขบวนการโจรกรรมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ในพื้นที่จังหวัดตาก และจังหวัดเชียงราย ค่อนข้างเงียบหายไปนาน
แต่ทว่าคำสั่งฟ้าผ่า”เด้ง”ผกก.สภ.บ้านโคก ของตำรวจภูธรภาค 6 ให้ ผกก.สภ.บ้านโคก ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร ภาค 6 (ศปก.6) โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม และมีคำสั่งให้พันตำรวจเอก นิเวศน์ เพชรดี ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงาน สอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตาก รักษาราชการ แทนในตำแหน่ง ผกก.สภ.บ้านโคก “หากมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง จะได้รายงานตามลำดับขั้นไป หากพบหลักฐานมีการกระทำผิดดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด”ทำให้สังคมหันกลับมาติดตามมองอย่างน่าสนใจยิ่ง
ทั้งนี้ ช่วงค่ำคืนวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ร.ต.ต.ปราโมทย์ สอนกิ่ม รอง สว.(ป) ส.ทล.6 กก.5 บก.ทล., จ.ส.ต.ณัฐวัฒน์ สุธรรมสิริโยธิน,สายตรวจรถวิทยุตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก.5 (แพร่), ด.ต.ประทีป มีอุดร, ด.ต.สมเกียรติ วิชาราช ผบ.หมู่.ส.ทล.3 กก.5 (พิษณุโลก) ปิดล้อมจับกุมรถคันดังกล่าวได้ที่ ปั้ม ปตท.ป่าเซ่า อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ มีผู้ต้องหา 1 ราย ทราบชื่อ คือ นายเทวัญ (สงวนนามสกุล) ภูมินำเนาตามบัตรประชาชน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร เป็นผู้ขับรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า 4 ประตู รุ่นวีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน กอ-9647 อุบลราชธานี ตามที่แจ้งหายไว้
โดยมีทีมงานขบวนโจรกรรมรถยนต์ ว่าจ้างให้ผู้ต้องหา คือ นายเทวัญ นั่งเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองไปจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อไปขับรถที่ได้ขโมยมา ส่งไปยังภาคเหนือ
รายงานข่าวแจ้งว่า มีความพยามของกลุ่มขบวนคาดเดากันว่าการลักลอบนำรถออกนอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย นำรถยนต์ รถจักรายนต์ ข้ามชายแดนมุ่งไปสู่บ้านสว่าง แขวงไซยะบุลี ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) ตรงข้ามบริเวณช่องทางธรรมชาติกิ่วนกแซว ตำบลบ่อเบี้ย อำเภอบ้านโคก
ซึ่งช่องทางดังกล่าวจะไม่มีด่านถาวร แต่จะเป็นทางสัญจรของชาวบ้านที่ใช้เดินทางไปไร่ไปนา เนื่องจากเป็นช่วงฤดูแล้ง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ สัญจรไปตามเส้นทางธรรมชาติที่กว้างขวางได้โดยง่าย หรือใช้เส้นทางเข้าไร่ของชาวบ้าน เส้นทางที่กลุ่มขบวนการมักนำรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย
แหล่งข่าวแจ้งว่า ที่ผ่านมานำออกไปแล้วเส้นทางดังกล่าว เป็นรถยนต์กว่า 300 คัน จักรยานยนต์กว่า 700 คัน โดยรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีโว ที่เป็นยอดนิยม ขณะเดียวกัน จนท.ตรวจลาดตะเวนตามเส้นทาง ยังพบป้ายทะเบียนรถจำนวนมาก ถูกถอดและทิ้งไว้ในป่าอีกด้วย
ด้านพล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ตร.ภ.จว.)อุตรดิตถ์ สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ และชุดสืบสวน สภ.บ้านโคก และขอความร่วมมือกองกำกับการตำรวจตระะเวนชายแดนที่ 31 (กก.ตชด.31) พิษณุโลก ฝ่ายปกครองจังหวัดอุตรดิตถ์ และอำเภอบ้านโคก พร้อมจัดชุดรุดลงพื้นที่ตำบลบ่อเบี้ย อำเภอบ้านโคก หลังได้รับแจ้งข่าวสารว่ามีรถยนต์ต้องสงสัย คาดว่าเป็นกลุ่มขบวนการลักลอบนำรถออกนอกราชอาณาจักร อีกจำนวน 4 คัน จึงตรวจสอบหลักฐาน สอบข้อเท็จจริง
“ขณะนี้ได้ทำการตรวจยึดรถยนต์ทั้งหมดไว้ เพื่อทำการตรวจสอบ ขณะเดียวกันได้มีการสอบสวนเชิงลึกกลุ่มขบวนการฯ กรณีมีส่วนพัวพันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รายงานให้ พล.ต. ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 ได้ทราบแล้วในบางส่วน”พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ กล่าว
ข่าวแจ้งด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นบ้านพักอาศัยของชาวบ้าน 3 หลัง หลักแรกที่โรงรถหลังบ้าน พบรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ป้ายทะเบียน สกลนคร และสีเทา ป้ายทะเบียน ชลบุรี จอดล็อคกุญแจ หลังที่ 2 พบรถยนต์บิ๊กอัพสี่ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร จอดอยู่โรงรถท้ายบ้าน ส่วนบ้านหลังที่ 3 พบรถยนต์ โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ 7 ที่นั่ง สีขาว ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร จอดใต้ถุนบ้านไม้ยกพื้น ซึ่งทำเป็นที่จอด มีการล็อคกุญแจประตูที่จอดรถแน่นหนา
พ.ต.ท.เมธี ถิ่นจอม สารวัตรการข่าว กก.ตชด.31 พิษณุโลก กล่าวว่า พล.ต.ต.ประกอบ พลเตชา ผบก. ตชด.ภาค 3 สั่งการ ร่วมตรวจสอบหลังรับแจ้ง เบื้องต้นเจ้าของบ้านทุกหลังปฏิเสธ ไม่รู้ว่ารถยนต์ทั้ง 4 คันเป็นของใคร มาจอดที่บ้านได้อย่างไร เนื่องจากเจ้าของไม่ได้พักอาศัยบ้านเป็นประจำ บางหลังเป็นบ้านร้าง
อย่างไรก็ตาม อาจมาจากสาเหตุที่เจ้าหน้าที่คุมเข้ม กวดขัน เรื่องการลักลอบสิ่งของผิดกฎหมาย รวมไปถึงรถยนต์ รถจักรยายนต์ ส่งขายประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้กลุ่มขบวนการลักลอบนำรถออกนอกราชอาณาจักรนำมาจอดทิ้งไว้ เพื่อรอโอกาสเคลื่อนย้ายรถยนต์ข้ามแดน
สำหรับรถยนต์ที่ถูกนำมาจอดไว้ในหมู่บ้านรอส่งข้ามแดน นอกจากรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาแล้ว บางส่วนจะเป็นรถที่หลุดจำนำเถื่อน เช่น บ่อนในจังหวัดใกล้เคียงอุตรดิตถ์ หากไม่ส่งดอก หรือ ไม่ติดต่อถ่ายถอนคืน ในเวลาที่เหมาะสม ผู้รับจำนำจะเชิดรถยนต์ส่งออกขายให้กับขบวนการส่งออกประเทศเพื่อนบ้านทันที
การสกัดจับขบวนการโจรกรรม ส่งรถจำหน่ายประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนหน้านี้ในพื้นที่จังหวัดตาก และเชียงราย สุดท้ายจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งมีด่านถาวรภูดู่ ตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านโคก มีรถวิ่งสินค้าส่งออกและนำเข้า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ต่างอะไรกับ”ฝีแตก” และ “บ้านโคก”คงมิใช่ดินแดนสนธยาอีกต่อไป โปรดจับตาอย่ากระพริบ