“พระราชทานอภัยโทษ”สังคมและครอบครัวยังรอคอยการกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่

พิธีการปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

เช้าวันที่10 พฤษภาคม2562 บรรยากาศที่หน้าเรือนจำจังหวัดลำพูน ญาติพี่น้องของผู้ต้องราชทัณฑ์จำนวนมากมารอรับผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษเนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 148 คน ผู้ต้องขังชาย121 คน ผู้ต้องขังหญิง14 คน ผู้ต้องกักขังชาย 12 คน และผู้ต้องกักขังหญิง1 คน

สายตาทุกคู่เฝ้ามองที่ประตูทางออกเรือนจำด้วยใจจดจ่อและกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ดีใจที่บุคคลในครอบครัวจะได้กลับมาอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าอีกครั้ง ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไม่ว่าด้วยเหตุผลใด นับจากนี้ไปเชื่อมั่นว่าจะสามารถกลับตนเป็นคนดีทุกคนในครอบครัวคอยให้กำลังใจ

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธีปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีพระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน ประพรมน้ำพุทธมนต์กล่าวสัมโมทนียกถาและให้พร เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์

นอกจากนั้น ยังมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีอาทิ นายสุจินต์ หลีสกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดลำพูน นางผุสดี สุวรรณมงคล อัยการจังหวัดลำพูน พลตำรวจตรีมาโนช อนันต์ฤทธิ์กุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน พันเอกโรมรัน ชูก้าน รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำพูน พันเอกสุจินต์ ทรัพย์สิน รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดลำพูน หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ร่วมแสดงความยินดีกับผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษ

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์และครอบครัว ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอภัยโทษ ในครั้งนี้ ขอแสดงความยินดีกับผู้ต้องราชทัณฑ์ โดยขอให้ทุกคนนำข้อผิดพลาดในอดีตมาเป็นบทเรียนไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก พึงระลึกไว้เสมอว่าพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ เสมือนหนึ่งการให้โอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง

ทุกอย่างกลับคืนมาไม่ได้สิ่งที่เสียไป คือเวลาวันนี้นอกจากผู้ที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษจะรู้สึกดีใจที่ได้รับโอกาสกลับตนเป็นคนดีแล้ว ยังมีผู้ที่ดีใจยิ่งกว่านั่นคือครอบครัว ที่เฝ้ารอคอยให้ได้กลับไปอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าอีกครั้ง ขอให้มุ่งมั่นตั้งใจประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในความดีประกอบอาชีพการงานที่สุจริตเลี้ยงตนเองและครอบครัว รู้จักพอประมาณมีเหตุผลศึกษาหาความรู้ เพื่อให้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมสุจริตขยันอดทน ซึ่งจะส่งผลให้มีชีวิตส่วนตนและครอบครัวมีความผาสุกอย่างยั่งยืนนายอรรษิษฐ์กล่าว

ทางด้านนายธวัช ตันยุวรรธนะ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดลำพูน กล่าวว่า การปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ในวันนี้ เป็นการปล่อยตัวผู้ต้องโทษจำคุกในคดีความผิดตามที่พระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษพุทธศักราช 2562 ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ได้มอบหมายให้เรือนจำจัดโครงการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษ เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ภายหลังพ้นโทษ และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก ซึ่งผู้ต้องราชทัณฑ์ได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ได้ผ่านการอบรมเรียบร้อยแล้ว

สังคมและครอบครัวยังรอคอยให้โอกาสความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีต และให้ความไว้วางใจในการรับเข้าทำงานประกอบอาชีพโดยสุจริต

การเวก/รายงาน