พะเยา ดราม่าท่าเรือวัดติโลกอาราม เปิดประมูลที่ดินราชพัสดุคนท้องถิ่นข้องใจ ใครได้ประโยชน์
วันที่ 16 ก.ค 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นประเด็นร้อนในพื้นที่จังหวัดพะเยา หลังกรมธนารักษ์ โดยสำนักงานธนารักษ์พื้นที่พะเยา ออกประกาศเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 เรื่อง “การคัดเลือกเอกชนโดยวิธีประมูลสิทธิเพื่อก่อสร้างอาคารในที่ดินราชพัสดุ” บริเวณพื้นที่รอบท่าเรือและวัดติโลกอาราม ซึ่งตั้งอยู่กลางกว๊านพะเยา แหล่งท่องเที่ยวและศาสนสถานสำคัญของจังหวัด
พื้นที่ตามประกาศมีขนาดประมาณ 1 ไร่ 1 งาน 64 ตารางวา โดยเอกสารแนบท้ายแสดงแผนที่ 2 จุด คือ บริเวณท่าเรือและพื้นที่ใกล้วัดติโลกอาราม ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวใช้บริการล่องเรือไปสักการะพระพุทธรูปกลางน้ำที่ได้รับความนิยม
ผู้สนใจสามารถซื้อซองเอกสารและแบบสัญญาได้ตั้งแต่วันที่ 1 – 16 กรกฎาคม 2568 โดยมีการนัดชี้แจงรายละเอียดและดูสถานที่ในวันที่ 17 กรกฎาคม ก่อนเปิดรับซองเสนอราคาวันที่ 29 กรกฎาคม 2568
อย่างไรก็ตาม การเปิดประมูลพื้นที่ราชพัสดุในจุดที่มีความอ่อนไหวต่อศาสนาและการท่องเที่ยว ทำให้ชาวบ้านและกลุ่มอนุรักษ์ท้องถิ่นเกิดข้อกังขาว่า การดำเนินการครั้งนี้โปร่งใสเพียงใด และจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต หรือความศักดิ์สิทธิ์ของวัดติโลกอารามหรือไม่ ตอกย้ำข้อสงสัยใครได้ประโยชน์ ที่ผ่านมา แม้ท่าเรือและพื้นที่โดยรอบวัดติโลกอารามจะเป็นจุดท่องเที่ยวหลักที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาตลอดทั้งปี แต่ชาวบ้านในพื้นที่กลับไม่ได้รับประโยชน์ที่ชัดเจนจากการใช้พื้นที่บริเวณนี้ โดยเฉพาะรายได้จากการให้บริการหรือกิจกรรมท่องเที่ยว กลับตกอยู่กับกลุ่มบุคคลบางกลุ่มหรือเอกชนรายเดิมที่เข้ามาบริหารจัดการพื้นที่
หลายเสียงจากชาวบ้านสะท้อนว่า พวกเขาไม่เคยมีส่วนร่วมในการวางแผนหรือบริหารจัดการพื้นที่นี้ และไม่สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรายได้ การจัดกิจกรรมชุมชน หรือการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พื้นที่วัด หวั่นซ้ำรอยเดิม หากไม่มีความโปร่งใสการเปิดประมูลรอบใหม่นี้ จึงถูกตั้งคำถามอย่างหนักว่า จะเป็นเพียงการ “เปลี่ยนมือ” จากเอกชนรายหนึ่งไปสู่อีกรายหนึ่ง หรือจะเป็นโอกาสที่แท้จริงในการจัดการพื้นที่อย่างมีส่วนร่วม โปร่งใส และคืนประโยชน์สู่ชุมชน
หลายฝ่ายจับตาอย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าหลังวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ เมื่อทราบรายชื่อผู้ยื่นซองประมูลแล้ว ดราม่าครั้งนี้อาจปะทุหนักขึ้น หากยังไม่มีคำชี้แจงหรือท่าทีที่ชัดเจนจากหน่วยงานภาครัฐ