ผู้สื่อข่าวรายงายว่า หน่วยทหารช่าง กองทัพบก ได้เข้าพื้นที่ปฏิบัติงานเร่งรัดการขุดลอก และการก่อสร้างพนังแนวป้องกันลำน้ำสาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชายแดนไทย-เมียนมา อย่างต่อเนื่อง หลังจากประเทศไทยและเมียนมาได้ทำข้อตกลงในการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายลำน้ำสาย ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.68 เป็นต้นมา เป็นเวลากว่า 11 วันที่ผ่านมา ตามโครงการของภาครัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบภัยพับัติน้ำท่วมหนักของพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในรอบ 100 ปี เมื่อเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งทางหน่วยงานภาครัฐของเมียนมาก็เร่งก่อสร้างพนังแนวป้องกันลำน้ำสายรุดหน้าไปมากแล้ว.
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 เม.ย.68 พบเจ้าของที่หนึ่งรายหัวหมอ. ไม่ยอมชี้เขตรื้อถอนทำให้เจ้าหน้ที่หน่วยทหารช่าง กองทัพบก ชะงักล่าช้าในการขุดลอกและการก่อสร้างพนังแนวป้องกันน้ำสาย ถ้าปล่อยเป็นอย่างนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารช่างล่าช้าไม่ทันเสร็จตามที่กำหนด น้ำท่วมซ้ำเมืองแม่สายแน่นนอน
เพราะความเห็นแก่ตัวไม่มีจิตสำนึก ที่ปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำและยังไม่ยอมชี้เขตรื้อถอน บริเวณพื้นที่ ( ย่านตลาดสายลมจอยแม่สาย ท้ายซอยสุโขทัย ) เพียงจุดเดียวที่ลำน้ำสายแคบที่สุดเป็นคอขวด ประมาณความกว้างแค่ 10-12 เมตร โดยเจ้าของที่ครอบครองได้ประวิงเวลาไม่ยอมชี้เขตรื้อถอน.. อ้างคาดว่ามีสัญญาเช่ากับหน่วยงานภาครัฐแห่งหนึ่ง..จะทำให้พีน้องชาวเมืองแม่สายเดือดร้อนกันหมด.. ถ้าเจ้าหน้าที่ทหารช่างทำงานไม่เสร็จทันตามที่ กำหนด ภายในวันที่ 20 มิ.ย.68 เพื่อให้ทันก่อนฤดูน้ำหลาก..
จากข้อมูลเชิงลึก – พื้นที่จุดดังกล่าวที่แคบที่สุดเป็นคอขวดกว้างแค่ 10-12 เมตร มีเอกเช่าสัญญาเช่ากับหน่วยงานหนึ่งจริงหรือเปล่า – หรือว่าเป็นพื้นที่งอกของลำน้ำแม่สายหรือเปล่า.. ( ที่ทั้งหมดก็ถือว่าเป็นที่ของหลวง ) ถ้าปล่อยเป็นอย่างนี้ไม่ยอมมาชี้เขตรื้อถอน.. ชาวแม่สายจะเดือดร้อนกันทั้งเมือง.. ถ้าเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมซ้ำในปลายปี 68 อีก ใครจะรับผิดชอบเสียทั้งเงินภาษีของรัฐในการเยียวยาช่วยเหลือ และหน่วยงานต่างๆ ทั้งประเทศต้องมาช่วยเหลือ..ในเหตุการณ์น้ำท่วมหนักเมืองแม่สาย ในรอบ 100 ปี ที่ผ่านมา วอนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่ช่วยกันแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
ณฐพัชร์ อภิโชคกุล หัวหน้าสำนักข่าวเบาะแสภาคเหนือ บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์ออนไลน์ /// รายงาน